ตรวจอาการเบื้องต้น: COVID-19 VS ไข้หวัดใหญ่ อาการต่างกันอย่างไร? ไข้หวัดธรรมดา มักเกิดจากเชื้อไวรัสไรโนไวรัส (Rhinovirus) 30-80% เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดโรคกับจมูก คือหวัดธรรมดา และ ไวรัสโคโรนาไวรัส (Coronavirus) 10-15% แต่เป็นไวรัสโคโรนาที่ค้นพบ และมีมานานแล้ว โดยมีการพบเชื้อไวรัสโคโรนาที่ติดต่อในมนุษย์แล้ว 6 สายพันธุ์
COVID-19 เกิดจาก ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 จะทำให้มีอาการปอดอักเสบรุนแรงได้ เป็นเชื้อไวรัสถูกค้นพบใหม่ นับเป็นสายพันธุ์ที่ 7 ของไวรัสโคโรนาที่ติดต่อในมนุษย์
อาการของโรค ไข้หวัดธรรมดา
– มีไข้ต่ำๆ ถึงมีไข้สูง ผ่านไป 3-4 วัน อาการจะเริ่มดีขึ้น
– อาจมีไอ จาม เล็กน้อย ผ่านไป 3-4 วัน อาการจะเริ่มดีขึ้น
– น้ำมูกไหล มีอาการคัดจมูก ทำให้หายใจไม่สะดวก
– ปวดตามตัว รู้สึกอ่อนเพลีย
– ไม่มีอาการท้องเสีย
อาการของโรค COVID-19
– มีไข้สูงมากกว่า 37.5 องศา
– ปวดเมื่อยตามตัว ทานอาหารไม่ค่อยได้
– ไอ มีเสมหะ เจ็บคอ นานติดต่อกันมากกว่า 4 วัน
– บางรายอาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสียร่วมด้วย
– หายใจลำบากมีไอร่วมด้วย ในบางรายรุนแรงถึงขั้นปอดอักเสบ หรือปอดบวม
ความรุนแรงของโรค
ไข้หวัดธรรมดา มักไม่มีโรคแทรกซ้อนรุนแรง และไม่มีรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันมากนัก มีอาการอยู่ไม่นาน หากดูแลร่างกาย พักผ่อนให้เพียงพอ อาการไข้หวัดจะค่อย ๆ หายไปเองใน 3-4 วัน
ไวรัส COVID-19 พบอาการปอดอักเสบอันนำไปสู่การเสียชีวิต ซึ่งความรุนแรงของโรคนี้จะแตกต่างกันตามความแข็งแรงของแต่ละคน
อย่างไรก็ตามหากท่านมีอาการ มีไข้สูงมากกว่า 37.5 องศา, ไอ เจ็บคอ, น้ำมูกไหล, หายใจเหนื่อยหอบ หายใจลำบาก ควรรีบมาพบแพทย์โดยด่วน